ต้อเนื้อเกิดจากอะไร รักษาต้อเนื้อที่ฉะเชิงเทราแบบไหนดี ราคาเท่าไหร่?

เคยไหมคะ รู้สึกเคืองตาบ่อย ๆ เหมือนมีฝุ่นเข้าตาตลอดเวลา พอส่องกระจกดูก็เห็นมีเนื้อเยื่อสีแดง ๆ ลามเข้ามาในตาดำ อาการแบบนี้อย่ามองข้ามเด็ดขาดเลยค่ะ เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณของต้อเนื้อซึ่งเป็นปัญหาดวงตาที่พบบ่อย โดยเฉพาะคนที่ต้องเจอแดด, ลม และฝุ่นอยู่เป็นประจำ หลายคนอาจสงสัยว่า ต้อเนื้อคืออะไร อันตรายไหม แล้วจะรักษายังไงให้หายขาด? โดยเฉพาะชาวฉะเชิงเทรา ที่กำลังมองหาคลินิกรักษาต้อเนื้อ ฉะเชิงเทราเดินทางสะดวก วันนี้ ยองโด คลินิก เราจะพาไปรู้จักว่าต้อเนื้อเกิดจากอะไร รักษายังไงถึงจะได้ผลดี และถ้าจะรักษาต้อเนื้อในฉะเชิงเทรา มีทางเลือกแบบไหนบ้างกันค่ะ
รักษาต้อเนื้อที่คลินิกหรือโรงพยาบาลดี?
สำหรับชาวฉะเชิงเทรา ที่มีคำถามว่าจะไปรักษาต้อเนื้อ ฉะเชิงเทราที่ไหนดี? ทั้งโรงพยาบาลและคลินิกต่างก็มีจุดเด่น จุดด้อยที่แตกต่างกันไป ดังนี้ค่ะ
1. การรักษาในโรงพยาบาล
โรงพยาบาลรัฐบาลในพื้นที่ฉะเชิงเทรา เช่น โรงพยาบาลพุทธโสธร หรือโรงพยาบาลประจำอำเภอ แน่นอนว่ามีจักษุแพทย์และเครื่องมือที่พร้อมสำหรับการรักษาต้อเนื้อค่ะ
2. การรักษาที่ ยองโด คลินิก
นี่เป็นทางเลือกสำหรับการรักษาต้อเนื้อ ที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ ที่ ยองโด คลินิก มีคุณหมอเฉพาะทางด้านจักษุโดยตรงเลยค่ะ ซึ่งก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นสำหรับชาวฉะเชิงเทราและพื้นที่ใกล้เคียง
การรักษาที่ ยองโด คลินิก จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการความรวดเร็ว, สะดวกสบาย ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากจักษุแพทย์เฉพาะทาง และผลการรักษาที่ดีด้วยเทคนิคสมัยใหม่ค่ะ

ต้อเนื้อคืออะไร มีลักษณะอย่างไร?
ต้อเนื้อ (Pterygium) มันคือความเสื่อมของเยื่อบุตาขาวค่ะ โดยเยื่อบุตาขาวที่เสื่อมสภาพนี้จะหนาตัวขึ้นและค่อย ๆ ลุกลามยื่นเข้าไปบนกระจกตา (Cornea) หรือที่เราเรียกกันว่าตาดำ เราสามารถสังเกตลักษณะเด่น ๆ ของต้อเนื้อได้ดังนี้ค่ะ
หลายคนสับสนระหว่างต้อเนื้อกับต้อลม (Pinguecula) ต้อลมจะเป็นแค่ตุ่มนูนสีเหลือง ๆ ที่อยู่บนตาขาว และไม่ลามเข้าตาดำค่ะ แต่ต้อเนื้อคือขั้นกว่า เพราะมันได้ลุกลามเข้าไปในเขตตาดำแล้วนั่นเองค่ะ
อาการของต้อเนื้อที่ควรสังเกต
บางคนอาจจะมีต้อเนื้อ แต่แทบไม่มีอาการอะไรเลยนอกจากความสวยงามที่ลดลง แต่หลายคนก็มักจะมีอาการเหล่านี้รบกวนชีวิตประจำวันค่ะ
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของการเกิดต้อเนื้อ
ต้อเนื้อมีสาเหตุหลัก ๆ มาจากปัจจัยแวดล้อมที่เราต้องเจอกันทุกวัน ดังนี้ค่ะ
สัมผัสแสงแดดรังสี UV เป็นเวลานาน
รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) โดยเฉพาะ UV-B ในแสงแดด เป็นตัวการสำคัญที่ทำลายเซลล์ของเยื่อบุตา ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพและกลายพันธุ์จนกลายเป็นต้อเนื้อ ถ้าโดนแดดนาน ๆ มันจะสร้างเนื้อเยื่อที่ผิดปกติขึ้นมาแทน ดังนั้น คนที่ทำงานกลางแจ้งเป็นประจำจึงมีความเสี่ยงสูงมาก
สภาพอากาศแห้ง, ฝุ่น และควัน
ปัจจัยรองลงมาคือการระคายเคืองตาแบบเรื้อรังค่ะ อะไรก็ตามที่ทำให้ตาเราแห้งและอักเสบบ่อย ๆ ก็ล้วนเป็นตัวกระตุ้นได้หมด ไม่ว่าจะเป็นลม ทำให้ตาแห้งเร็วขึ้น, ฝุ่นหรือทราย โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 หรือฝุ่นจากการเกษตร, การก่อสร้าง, ควันบุหรี่, ควันท่อไอเสีย, ควันจากการเผาไหม้ หรือไอระเหยจากสารเคมีในที่ทำงาน
ขาดการป้องกันดวงตา
อันนี้ต่อเนื่องจากข้อแรกเลยค่ะ ในเมื่อรู้ว่า UV และฝุ่นลมคือตัวการ แต่เรากลับละเลยการป้องกัน การไม่สวมแว่นกันแดดที่สามารถป้องกันรังสี UV ได้ หรือการไม่สวมแว่นตาป้องกันเวลาทำงานที่มีฝุ่นเยอะ ๆ ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดต้อเนื้อค่ะ
พันธุกรรม หรือมีภาวะตาแห้งเรื้อรัง
บางคนอาจจะมีพันธุกรรม ที่เยื่อบุตาอ่อนแอต่อแสงแดดมากกว่าคนอื่น สังเกตได้ว่าถ้าพ่อแม่พี่น้องเป็น เราก็อาจจะมีโอกาสเป็นมากขึ้น นอกจากนี้ คนที่มีภาวะตาแห้งเรื้อรังอยู่แล้ว ก็มีความเสี่ยงสูงขึ้นค่ะ เพราะผิวตาที่แห้งจะอักเสบและระคายเคืองง่าย กลายเป็นวงจรที่แย่ลงเรื่อย ๆ คือ ต้อเนื้อทำให้ตาแห้ง และตาแห้งก็กระตุ้นให้ต้อเนื้ออักเสบมากขึ้น


วิธีรักษาต้อเนื้อ
วิธีการรักษาจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการค่ะ ว่ามันรบกวนการมองเห็นหรือชีวิตประจำวันของเรามากน้อยแค่ไหน โดยจะแบ่งเป็น 2 แบบหลัก ๆ ดังนี้ค่ะ
รักษาด้วยยา
สำหรับการรักษาด้วยยาจะใช้ในกรณีที่ต้อเนื้อยังเป็นไม่มากค่ะ หรือในคนที่เป็นเยอะ แต่อยู่ในช่วงที่อักเสบ, บวม, แดง การใช้ยาจะมุ่งเน้นไปที่การบรรเทาอาการ ไม่ได้ทำให้ต้อเนื้อหายไปหรือหดเล็กลงนะคะ
รักษาด้วยการผ่าตัด
นี่คือวิธีเดียวที่จะกำจัดต้อเนื้อให้หายขาดได้ค่ะ จักษุแพทย์จะแนะนำให้ผ่าตัดเมื่อ
- ต้อเนื้อลามเข้าไปในตาดำมากจนบดบังการมองเห็น
- ต้อเนื้อดึงรั้งกระจกตาจนเกิดสายตาเอียงมากขึ้นเรื่อย ๆ
- มีอาการอักเสบ, เคืองตา, แดงบ่อยครั้ง จนรบกวนการใช้ชีวิต แม้จะใช้ยาหยอดแล้วก็ไม่ดีขึ้น
- เพื่อเหตุผลด้านความสวยงาม หรือความมั่นใจ
การผ่าตัดต้อเนื้อในปัจจุบันก็พัฒนาไปมากค่ะ สมัยก่อนมักจะใช้วิธีลอกต้อเนื้อออกไปเฉย ๆ คือลอกเนื้อเยื่อต้อออก แล้วปล่อยให้แผลตรงนั้นหายเอง แต่วิธีนี้มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำสูงมาก แถมต้อเนื้อที่กลับมาใหม่มักจะอักเสบและลุกลามเร็วกว่าเดิมด้วยค่ะ
ปัจจุบันวิธีที่เป็นมาตรฐานและให้ผลดีที่สุดคือ การผ่าตัดลอกต้อเนื้อร่วมกับการปลูกถ่ายเยื่อบุตาตัวเองค่ะ คือหลังจากคุณหมอลอกต้อเนื้อออกไปแล้ว จะไม่ปล่อยให้แผลโล่ง แต่จะนำเยื่อบุตาขาวปกติของเราเอง มาตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วย้ายมาแปะซ่อมแซมตรงตำแหน่งที่ลอกต้อเนื้อออกไปค่ะ วิธีนี้จะช่วยลดอัตราการกลับมาเป็นซ้ำได้มหาศาล เหลือเพียงประมาณ 5-10% เท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีเทคนิคอื่น ๆ เช่น การใช้เนื้อเยื่อรกแกะสังเคราะห์ หรือการใช้ยาบางชนิด หยอดระหว่างผ่าตัดเพื่อยับยั้งการเติบโตของเซลล์ ซึ่งจักษุแพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่าเทคนิคไหนเหมาะกับเราที่สุดค่ะ
ค่าใช้จ่ายในการรักษาต้อเนื้อ ฉะเชิงเทรา
เรื่องค่าใช้จ่ายเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจ ตัวเลขนี้เป็นเพียงการประมาณการ อาจแตกต่างกันไปในแต่ละสถานพยาบาลนะคะ

การผ่าตัดด้วยเทคนิคเก่าที่ราคาถูกกว่า แต่มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำสูงมาก อาจทำให้คุณต้องเสียเงินและเจ็บตัวซ้ำซ้อน การลงทุนครั้งเดียวด้วยเทคนิคที่ดีกว่าอย่างการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อที่ ยองโด คลินิก อาจจะคุ้มค่ากว่าในระยะยาวค่ะ

การดูแลหลังผ่าตัดต้อเนื้อ
การผ่าตัดเสร็จแล้ว สิ่งที่ต้องทำอย่างเคร่งครัดเพื่อให้แผลหายไวและลดโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ มีดังนี้ค่ะ
หยอดยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
หลังผ่าตัด คุณหมอจะให้ยาหยอดตามา 2-3 ชนิด คือ ยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และยาสเตียรอยด์ เพื่อลดการอักเสบของแผลผ่าตัด ต้องหยอดยาเหล่านี้ตามเวลาและขนาดที่คุณหมอสั่ง อย่างเป๊ะ ๆ ห้ามหยุดยาเองเด็ดขาดนะคะ แม้จะรู้สึกว่าตาดีขึ้นแล้วก็ตาม เพราะการอักเสบที่คุมไม่ดีพอ คือปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้ต้อเนื้อกลับมาเป็นซ้ำได้ค่ะ
หลีกเลี่ยงการขยี้ตา
ข้อนี้สำคัญสุดค่ะ ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก แผลยังใหม่เนื้อเยื่อที่ปลูกถ่ายไปก็ยังไม่ติดดี การขยี้ตาแรง ๆ อาจทำให้เนื้อเยื่อนั้นเคลื่อนหลุด หรือทำให้แผลเลือดออกได้ ช่วงแรก ๆ หลังผ่าตัดจะรู้สึกเคืองตามากเหมือนมีทรายอยู่ในตา ให้ใช้วิธีหยอดน้ำตาเทียมบ่อย ๆ หรือกินยาแก้ปวดแทนการขยี้นะคะ
ใส่แว่นกันแดดเมื่อต้องออกกลางแจ้ง
นี่คือสิ่งที่ต้องทำไปเลยค่ะ หลังผ่าตัดดวงตาจะไวต่อแสงแดดมาก การปกป้องดวงตาจากรังสี UV เป็นสิ่งจำเป็นที่สุดเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ ควรใส่แว่นกันแดดเพื่อป้องกันลมและฝุ่นเข้าทางด้านข้างด้วยค่ะ ในช่วงเดือนแรกแม้อยู่ในที่ร่มแต่สว่างมากก็ควรใส่ไว้ค่ะ
มาพบแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจติดตามอาการ
คุณหมอจะนัดดูแผลเป็นระยะ ๆ หลังผ่าตัด เพื่อประเมินการสมานแผล, ดูการติดเชื้อ และเฝ้าระวังสัญญาณแรก ๆ ของการกลับมาเป็นซ้ำ การไปตามนัดทุกครั้งจึงสำคัญมาก ห้ามเบี้ยวนัดนะคะ
สรุป
ต้อเนื้อ (Pterygium) เป็นความเสื่อมของเยื่อบุตาที่เกิดจากการระคายเคืองเรื้อรัง โดยมีแสงแดด (UV) และลม/ฝุ่น เป็นตัวการหลัก แม้จะไม่ใช่มะเร็ง แต่ก็สร้างความรำคาญ เคืองตา, ตาแดง และอาจบดบังการมองเห็นได้ การรักษาเบื้องต้นคือการใช้ยาหยอดตาเพื่อบรรเทาอาการ แต่ทางเดียวที่จะกำจัดให้หายคือ การผ่าตัด ซึ่งเทคนิคที่ดีที่สุดในปัจจุบันคือ การลอกต้อเนื้อร่วมกับการปลูกถ่ายเยื่อบุตาตัวเอง เพราะมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำต่ำที่สุด สำหรับพี่น้องชาวฉะเชิงเทราที่กำลังมองหาสถานที่รักษาต้อเนื้อ ฉะเชิงเทรา ที่ ยองโด คลินิก ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์เลยค่ะ อย่าปล่อยให้อาการเคืองตามารบกวนชีวิตประจำวันของคุณอีกต่อไป ลองแวะเข้าไปปรึกษาคุณหมอเพื่อรับการประเมินและวางแผนการรักษาได้เลยนะคะ






