ตาโหล เบ้าตาลึก เกิดจากอะไร? รวมวิธีแก้ไขให้กลับมาสวย อ่อนเยาว์ขึ้น

เคยไหมคะ? นอนเต็มอิ่มแล้ว แต่ทำไมใต้ตายังดูโบ๋ มีเงาดำคล้ำ ปัญหาตาโหล เบ้าตาลึก นี่แหละ ตัวร้ายที่ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อย อิดโรย และแก่กว่าวัยแบบไม่รู้ตัว จนทำให้เสียความมั่นใจไปเลย! ไม่ต้องตกใจไปค่ะ วันนี้ ยองโด คลินิก จะพาทุกคนไปเจาะลึกต้นตอของปัญหาตาโหล พร้อมรวบรวมวิธีแก้ไขให้กลับมาสดใสอ่อนเยาว์อีกครั้ง ถ้าพร้อมจะบอกลาตาหมีแพนด้าแล้ว ไปดูกันเลย!
ตาโหล เบ้าตาลึกคืออะไร มีลักษณะยังไง?
ก่อนอื่นเรามาเช็กกันก่อนว่าอาการที่เราเป็นอยู่ใช่ปัญหาตาโหล เบ้าตาลึกรึเปล่า? ลองสังเกตตัวเองดูนะคะ ว่าดวงตาของเรามีลักษณะเหล่านี้ไหม


สาเหตุหลักของปัญหาตาโหล เบ้าตาลึก
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมถึงมีปัญหาตาโหล ทั้งที่ยังดูอายุไม่มาก มาดูกันค่ะว่าสาเหตุจริง ๆ ของปัญหานี้เกิดจากอะไรบ้าง
กรรมพันธุ์และโครงสร้างกระดูก
บางคนมีลักษณะโครงสร้างกระดูกเบ้าตาที่ลึกกว่าคนทั่วไปมาตั้งแต่เกิด หรือมีปริมาณไขมันใต้ตาน้อยโดยธรรมชาติ ทำให้ถึงแม้จะอายุยังน้อยและดูแลตัวเองดีแค่ไหน ก็ยังสามารถเห็นเป็นร่องลึกใต้ตาหรือเบ้าตาที่ดูลึกได้ชัดเจน ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะบุคคลที่ติดตัวมาแต่กำเนิดค่ะ
วัยที่เพิ่มขึ้น
นี่คือสาเหตุเบ้าตาลึก ที่ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงได้ค่ะ เมื่อเราอายุมากขึ้น โดยเฉพาะหลังอายุ 30 ปีขึ้นไป ร่างกายจะเกิดการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ 2 อย่างหลัก ๆ คือ
- การยุบตัวของกระดูก กระดูกบริเวณรอบดวงตาจะมีการยุบตัวลงเล็กน้อย ทำให้โครงสร้างที่เคยค้ำผิวหนังไว้ทรุดตัวลงค่ะ
- การฝ่อตัวของไขมัน ชั้นไขมันที่เคยทำหน้าที่เหมือนเบาะนุ่ม ๆ ใต้ผิวหนังจะค่อย ๆ ฝ่อและบางลง เมื่อผิวหนังที่เคยเต่งตึงขาดทั้งตัวค้ำยันและเบาะรองรับ ก็จะยุบตัวลงไปตามโครงสร้างที่เปลี่ยนแปลงไป จนเกิดเป็นร่องลึกและเบ้าตาที่โหลขึ้นมานั่นเองค่ะ
พฤติกรรมการใช้ชีวิต
ปัญหาเบ้าตาลึก ไม่ได้เกิดจากอายุหรือพันธุกรรมเท่านั้นนะคะ แต่ยังมาจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของเราด้วย เช่น
ปัญหาสุขภาพอื่นๆ
โรคประจำตัวบางอย่าง โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของใต้ตาคล้ำลึกเลยค่ะ เพราะอาการคันจมูก, คันตา ทำให้เราเผลอไปขยี้ตาบ่อย ๆ ซึ่งการเสียดสีซ้ำ ๆ จะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบและการผลิตเม็ดสีเพิ่มขึ้น ทำให้ผิวใต้ตาคล้ำและบอบช้ำ นอกจากนี้ อาการภูมิแพ้ที่คัดจมูกยังทำให้เลือดดำคั่งอยู่บริเวณรอบดวงตา ส่งผลให้ใต้ตาดูคล้ำและดูลึกโหลยิ่งกว่าเดิม หรือที่เรียกกันว่า Allergic Shiners นั่นเองค่ะ
4 วิธีแก้ไขตาโหล เบ้าตาลึก
เมื่อรู้สาเหตุแล้ว ก็ถึงเวลามาดูวิธีแก้ไขกันบ้าง! บอกเลยว่ามีตั้งแต่สเต็ปง่าย ๆ ไปจนถึงวิธีทางการแพทย์ที่เห็นผลชัดเจน มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
1. การดูแลตัวเองเบื้องต้น (สำหรับเคสไม่รุนแรง)
สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มมีปัญหาหรือยังมีอาการที่ไม่ลึกมาก การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตถือเป็นสิ่งแรกที่ช่วยชะลอและบรรเทาปัญหาได้ค่ะ วิธีนี้อาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาร่องลึกที่เกิดจากโครงสร้างกระดูกได้ แต่สามารถช่วยฟื้นฟูผิวที่ดูอิดโรยให้กลับมาสดใสขึ้นได้ เช่น


2. การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
นี่คือวิธีที่ได้รับความนิยมสูงสุดและเห็นผลชัดเจนที่สุดในปัจจุบันเลยค่ะ! การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แพทย์จะใช้สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่มีความปลอดภัยสูง ฉีดเข้าไปเติมเต็มในบริเวณเบ้าตาที่ยุบตัวหรือเป็นร่องลึกได้อย่างแม่นยำ
ฟิลเลอร์จะเข้าไปช่วยเติมเต็มส่วนที่ลึก ทำให้ดูตื้นและเรียบเนียนขึ้นหลังทำ ถือเป็นวิธีแก้ตาโหล ที่เห็นผลเร็วมาก แทบไม่ต้องพักฟื้นเลยค่ะ และหากทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ผลลัพธ์ก็จะดูเป็นธรรมชาติมากค่ะ
3. การฉีดไขมันหรือเติมไขมันตัวเอง
อีกหนึ่งทางเลือกที่หลายคนสนใจก็คือ การเติมไขมันใต้ตาค่ะ โดยขั้นตอนจะเริ่มจากคุณหมอจะดูดไขมันจากส่วนอื่นของร่างกายเราเอง เช่น หน้าท้องหรือต้นขา จากนั้นนำไขมันที่ได้ไปผ่านกระบวนการปั่นคัดแยก เพื่อให้เหลือเฉพาะเซลล์ไขมันบริสุทธิ์ที่มีคุณภาพ ก่อนจะฉีดกลับเข้าไปเติมเต็มบริเวณเบ้าตาและใต้ตาที่ลึกโหล
4. การผ่าตัดศัลยกรรม
วิธีนี้ถือเป็นตัวช่วยสำหรับเคสที่มีปัญหาโครงสร้างซับซ้อน หรือมีปัญหาร่วมอื่น ๆ ชัดเจน เช่น ถุงใต้ตาขนาดใหญ่ที่หย่อนคล้อยมาก ๆ ร่วมกับเบ้าตาลึก หรือผิวเปลือกตาบนที่ตกลงมาปิดตาเยอะเกินไปค่ะ คุณหมอจะใช้วิธีผ่าตัดเพื่อจัดเรียงไขมันใต้ตาใหม่ (ย้ายไขมันจากส่วนที่นูนมาเติมส่วนที่โบ๋) พร้อมกับตัดผิวหนังส่วนเกินออกไปในคราวเดียว ทำให้ช่วยแก้ปัญหาได้แบบถาวรและเห็นผลชัดเจนสุด ๆ
แต่เนื่องจากเป็นการผ่าตัดใหญ่ จึงจำเป็นต้องทำโดย ศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านดวงตาโดยเฉพาะ และต้องใช้เวลาพักฟื้นมากกว่าวิธีอื่นนิดหนึ่งค่ะ


วิธีป้องกันตาโหล เบ้าตาลึก
ถ้าไม่อยากให้ปัญหานี้ถามหาก่อนวัย ลองมาดูเคล็ดลับง่าย ๆ ที่ช่วยป้องกันและชะลอความโทรมของผิวรอบดวงตากันค่ะ
สรุป
ปัญหาตาโหล เบ้าตาลึก ไม่ใช่เรื่องที่แก้ไม่ได้ค่ะ ทุกวันนี้มีทางเลือกในการดูแลมากมาย ตั้งแต่การปรับพฤติกรรมเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา, เติมไขมัน หรือแม้แต่การผ่าตัดสำหรับเคสที่ต้องการแก้ไขที่มีความซับซ้อน ซึ่งแต่ละวิธีล้วนมีจุดเด่นต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาของแต่ละคนด้วยนะคะ ที่ยองโด คลินิก เรามีทีมแพทย์เฉพาะทางที่พร้อมให้คำแนะนำอย่างจริงใจ ช่วยประเมินและเลือกแนวทางที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้ดวงตากลับมาดูสดใส มีมิติ และอ่อนเยาว์อีกครั้ง สนใจการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หรือหัตถการอื่น ๆ ที่ช่วยคืนความมั่นใจให้ใบหน้า ทักเข้ามาปรึกษากับเราได้เลยค่ะ!






