โบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี? แนะนำโบท็อกซ์ที่นิยมในตอนนี้
โบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี? ปัจจุบันมีหลายยี่ห้อที่ได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป็นโบท็อกซ์จากเกาหลี, อเมริกา, อังกฤษ หรือจากเยอรมัน แต่ละแบรนด์มีจุดเด่นและเหมาะกับปัญหาผิวที่ต่างกัน ถ้ายังเลือกไม่ถูก วันนี้ ยองโด คลินิก ได้รวบรวมข้อมูลโบท็อกซ์ที่ยอดนิยมมาให้แล้วค่ะ!
ฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี? แนะนำยี่ห้อยอดนิยม
โบท็อกซ์ที่ได้รับความนิยมมีหลายยี่ห้อจากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเกาหลี, อเมริกา, อังกฤษ หรือเยอรมัน แต่ละแบรนด์ก็มีจุดเด่นและคุณสมบัติที่ต่างกัน เราคัดสรรโบท็อกซ์คุณภาพจากแบรนด์ชั้นนำ หากกำลังลังเลว่าควรฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี มาดูกันเลยค่ะว่าแต่ละยี่ห้อมีข้อดีอะไรบ้าง!
1. โบท็อกซ์ของเกาหลี
ที่ ยองโดคลินิก นิยมใช้โบท็อกซ์ของเกาหลี เพราะมองว่าเป็นโบท็อกซ์ที่เข้ากับสภาพผิวของคนไทย เนื่องจากผลิตในเอเชียและราคาก็สมเหตุสมผล
Nabota
Nabota เป็นโบท็อกซ์จาก DAEWOONG ที่พัฒนาและวิจัยมากว่า 30 ปี ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะ ทำให้ตัวยามีความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7% ช่วยลดโอกาสดื้อยา อีกทั้งยังเป็นโบท็อกซ์เกาหลียี่ห้อเดียวที่ได้รับการรับรองจาก U.S. FDA
เหมาะสำหรับลดริ้วรอยทั่วใบหน้า, ปรับรูปหน้าให้ดูเรียว, ลดกราม, ลิฟต์กรอบหน้า รวมถึงช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อน่องและต้นแขนให้ดูเล็กลงอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วยค่ะ
จุดเด่นของ Nabota
Aestox
Aestox เป็นโบท็อกซ์จากเกาหลี ผลิตโดย HUGEL, Inc. และนำเข้าโดย Aestec Pharma ได้รับความนิยมสูงในไทยเพราะผ่านการรับรองจากทั้ง KFDA ในเกาหลีและ Thai FDA ในไทย อีกทั้งยังมีการวิจัยร่วมกับ โรงพยาบาลศิริราช นานกว่า 5 ปี เพื่อให้เหมาะกับคนไทยมากที่สุดค่ะ!
ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยลดริ้วรอย, ลิฟต์กรอบหน้า, ลดกราม รวมถึงฉีดเฉพาะจุด เช่น ลดน่อง ต้นแขน และลดเหงื่อบริเวณรักแร้ ทำให้ Aestox เป็นตัวเลือกที่หลายคนไว้วางใจ
จุดเด่นของ Aestox
Hugel
Hugel เป็นโบท็อกซ์จากเกาหลีที่พัฒนาโดย Hugel Inc. บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านโบท็อกซ์ และยังเป็นผู้ผลิต Botulax และ Aestox อีกด้วยค่ะ นำเข้าและจัดจำหน่ายในไทยโดย บริษัท บอน-ซอง จำกัด
ที่ยองโด คลินิก เราแนะนำ Hugel เพราะให้ผลลัพธ์ที่ดีและเห็นผลไว เป็นโบท็อกซ์ที่ลูกค้าหลายคนไว้วางใจ เหมาะสำหรับลดริ้วรอย, ปรับหน้าเรียว และยกกระชับผิวเฉพาะจุดให้ดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นค่ะ!
จุดเด่นของ HUGEL
2. โบท็อกซ์ของอเมริกา
Allergan
Allergan Botox เป็นโบท็อกซ์จากอเมริกา ผลิตโดย Allergan บริษัทด้านความงามระดับโลก ใช้เทคโนโลยีกำจัดไขมันด้วยความเย็น ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก และเป็นโบท็อกซ์ตัวแรกที่ U.S. FDA อนุมัติให้ใช้รักษารอยย่นที่หว่างคิ้ว นับเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้โบท็อกซ์ในวงการเสริมความงามเลยก็ว่าได้
จุดเด่นของ Allergan
3.โบท็อกซ์ของอังกฤษ
Dysport
โบท็อกซ์จากประเทศอังกฤษที่ได้รับความนิยมมากคือยี่ห้อ Dysport ผลิตโดยบริษัท Ipsen มีงานวิจัยระบุว่า
Dysport เป็นโบท็อกซ์จากอังกฤษที่ผลิตโดย Ipsen จุดเด่นคือโมเลกุลขนาดเล็ก ทำให้กระจายตัวได้กว้าง เหมาะกับการฉีดในพื้นที่กว้าง แต่ต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและตรงจุด
เหมาะสำหรับการลิฟต์กรอบหน้า ลดริ้วรอยระหว่างคิ้วให้ดูเป็นธรรมชาติ รวมถึงฉีดเฉพาะจุด เช่น ลดขนาดต้นแขน น่องขา และยังช่วยลดเหงื่อบริเวณรักแร้หรือฝ่ามือได้ดีอีกด้วยค่ะ
จุดเด่นของ Dysport
4. โบท็อกซ์เยอรมัน
Xeomin
Xeomin เป็นโบท็อกซ์จากเยอรมนีที่ได้รับการรับรองจาก U.S. FDA และนำเข้าโดย Merz Aesthetics ประเทศไทย ด้วยความบริสุทธิ์สูงและการกระจายตัวที่เหมาะสม ช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งหรือตึงจนเกินไป
ตัวนี้ช่วยลดริ้วรอยทั่วหน้า, ยกกระชับกรอบหน้า หรือจะลดกรามก็ได้ เหมาะสำหรับคนที่ใช้โบท็อกซ์มานานและอยากลดการดื้อยา แถมยังช่วยให้ใบหน้าดูละมุนและสมดุลมากขึ้นอีกด้วยค่ะ
จุดเด่นของ Xeomin
สรุป
โบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี? ปัจจุบันมีหลายยี่ห้อที่ได้รับความนิยมจากหลายประเทศ โดยแต่ละตัวมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนี้ค่ะ
1. โบท็อกซ์จากเกาหลี
2. โบท็อกซ์จากอเมริกา
3. โบท็อกซ์จากอังกฤษ
4. โบท็อกซ์จากเยอรมัน
หากคุณกำลังมองหาคลินิกฉีดโบท็อกซ์มืออาชีพ ยองโด คลินิก พร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ใช้ผลิตภัณฑ์แท้เพื่อผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัย ติดต่อเราเพื่อรับคำแนะนำได้เลยวันนี้!