รวมวิธีลดรอยตีนกาที่เห็นผลจริง พร้อมวิธีป้องกันจากต้นเหตุ

เวลายิ้มกว้าง ๆ หรือหัวเราะแล้วเห็นริ้วเล็ก ๆ ที่หางตาใช่ไหมคะ นั่นแหละคือรอยตีนกา สัญญาณเล็ก ๆ ของวัยที่มักมาเร็วกว่าที่คิด แม้รอยยิ้มจะงดงาม แต่ถ้ารอยตีนกาชัดขึ้นเรื่อย ๆ หลายคนก็คงอยากหาวิธีจัดการ วันนี้ ยองโด คลินิก เราได้รวบรวมวิธีลดรอยตีนกา ที่ได้ผลจริงตั้งแต่การดูแลตัวเองง่าย ๆ ไปจนถึงทางการแพทย์ พร้อมวิธีป้องกันจากต้นเหตุ ให้ทุกคนยิ้มได้มั่นใจขึ้นแบบยาวนาน พร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ!
รอยตีนกาคืออะไร เกิดขึ้นได้ยังไง?
รอยตีนกา คือริ้วรอยเล็ก ๆ ที่แตกกระจายออกจากบริเวณหางตา ลักษณะคล้ายรอยเท้าของกา ซึ่งเป็นที่มาของชื่อนั่นเองค่ะ บริเวณรอบดวงตาถือเป็นจุดที่ผิวบอบบางและบางที่สุดบนใบหน้า แถมยังมีต่อมไขมันน้อยกว่าส่วนอื่น ทำให้ผิวบริเวณนี้แห้งง่ายและเกิดรอยได้เร็วกว่าที่คิด
ในช่วงแรก รอยตีนกามักจะเห็นเฉพาะเวลายิ้ม, หัวเราะ หรือหยีตาเท่านั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป ปัจจัยต่าง ๆ อย่างแสงแดด, อายุที่เพิ่มขึ้น หรือแม้แต่การขยี้ตาบ่อย ๆ จะค่อย ๆ ทำให้คอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิวเสื่อมลง ส่งผลให้รอยที่เคยเห็นแค่ตอนยิ้ม กลายเป็นรอยลึกที่เห็นชัดแม้ไม่ได้แสดงสีหน้าเลยค่ะ
ปัจจัยหลักที่กระตุ้นให้เกิดเร็วขึ้น
รอยตีนกาไม่ได้เกิดจากอายุอย่างเดียวค่ะ แต่จริง ๆ แล้วมาจากหลายปัจจัยที่เราพบเจอในชีวิตประจำวันนี่แหละค่ะ นั่นก็คือ


วิธีลดรอยตีนกาให้เห็นผลจริง
วิธีลดรอยตีนกามีหลายวิธีค่ะ ตั้งแต่การบำรุงเบื้องต้นไปจนถึงการพึ่งพาเทคโนโลยีทางการแพทย์ ซึ่งแต่ละวิธีก็เหมาะกับความลึกของรอยที่แตกต่างกันไปค่ะ
1. บำรุงรอบดวงตาด้วย Eye Cream
การทา Eye Cream ถือเป็นขั้นตอนพื้นฐานที่ช่วยให้ผิวรอบดวงตาแข็งแรงและดูอ่อนเยาว์ขึ้นค่ะ แม้อายครีมจะไม่สามารถลบร่องลึกให้หายไปทันที แต่ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ และทำให้รอยตื้น ๆ ดูจางลงได้อย่างเห็นผล
เวลาเลือกอายครีม ควรดูส่วนผสมสำคัญอย่าง เรตินอล (Retinol) หรือวิตามินเอ ที่ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวและสร้างคอลลาเจน รวมถึงไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มฟู, เปปไทด์ (Peptides) ที่เสริมความยืดหยุ่นของผิว และวิตามินซี (Vitamin C) ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระและปรับให้ผิวรอบดวงตาดูกระจ่างใสขึ้นค่ะ
เคล็ดลับง่าย ๆ คือควรทาเป็นประจำทั้งเช้าและก่อนนอน ใช้นิ้วนางแตะเบา ๆ ไม่ถูแรง เพื่อไม่ให้ผิวบริเวณนั้นยืดหรือเกิดรอยเพิ่มค่ะ
2. ทำทรีตเมนต์หรือเลเซอร์ฟื้นฟูผิวรอบดวงตา
สำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่าการทาครีม การทำทรีตเมนต์หรือใช้พลังงานคลื่นต่างๆ ก็เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ โดยจะเน้นไปที่การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่จากใต้ผิว
3. ใช้มาส์กตาหรือเจลประคบเย็นเป็นประจำ
วิธีนี้อาจไม่ถึงขั้นลบรอยตีนกาได้ถาวร แต่ถือเป็นตัวช่วยเร่งด่วนที่ช่วยให้ผิวรอบดวงตาดูสดใสและเรียบเนียนขึ้นได้ทันทีหลังใช้ค่ะ การมาส์กตาจะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวรอบดวงตาแบบเร่งด่วน ทำให้ริ้วรอยตื้น ๆ ดูจางลงชั่วคราว ส่วนการใช้เจลประคบเย็นก็ช่วยลดอาการบวมและรอยคล้ำใต้ตาได้ดีมาก ช่วยให้ดวงตาดูสดชื่นและพักผ่อนเพียงพอขึ้นทันตาเลยค่ะ
4. ปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน
ต่อให้ใช้ครีมดีแค่ไหน แต่ถ้ายังมีพฤติกรรมเดิม ๆ รอยตีนกาก็กลับมาได้ค่ะ ลองเริ่มปรับพฤติกรรมเล็ก ๆ เหล่านี้ดูนะคะ


5. ฉีดโบท็อกซ์ ลดรอยตีนกา
วิธีนี้ถือเป็นทางเลือกที่ตรงจุดเลยค่ะ สำหรับรอยตีนกาที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เพราะรอยลักษณะนี้ไม่ได้เกิดจากผิวแห้ง แต่เกิดจากกล้ามเนื้อรอบดวงตาที่หดตัวซ้ำ ๆ จนเกิดเป็นรอยพับบนผิว โบท็อกซ์ (Botulinum Toxin) จะช่วยคลายการทำงานของกล้ามเนื้อส่วนนั้น ทำให้ผิวรอบดวงตาดูเรียบขึ้น และลดการเกิดรอยใหม่ในอนาคตได้ด้วยค่ะ จุดเด่นของการฉีดโบท็อกซ์ลดรอยตีนกา
สำหรับใครที่อยากลดรอยตีนกาให้เห็นผล พร้อมปรับใบหน้าโดยรวมให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น โปรแกรมโบท็อกซ์ริ้วรอย 3 จุด ก็เป็นอีกตัวเลือกยอดนิยมค่ะ เพราะช่วยจัดการทั้งรอยตีนกา, หน้าผาก และหว่างคิ้วได้ในครั้งเดียวเลยค่ะ

6. ฟิลเลอร์เติมร่องใต้ตาและหางตา
การเติมฟิลเลอร์ (Filler) ก็เหมือนการซ่อมแซมร่องลึกที่เกิดขึ้นแล้วค่ะ วิธีนี้เหมาะกับรอยตีนกาแบบถาวรหรือรอยที่เห็นชัดแม้ไม่ได้ยิ้ม ซึ่งมักเกิดจากการยุบตัวของผิวหรือกระดูกใต้ตาตามวัย ฟิลเลอร์ที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นสารไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid – HA) ที่เข้าไปเติมเต็มในส่วนที่ขาดหาย ทำให้ผิวบริเวณนั้นดูเรียบเนียนและอิ่มฟูขึ้นทันที จุดเด่นของการฉีดฟิลเลอร์ลดรอยตีนกา
7. Skin Boosters
ถ้าใครยังไม่อยากฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์ แต่รู้สึกว่าผิวรอบดวงตาเริ่มแห้ง, เหี่ยว หรือมีริ้วรอยเล็ก ๆ กลุ่ม Skin Boosters ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากค่ะ
หัตถการกลุ่มนี้ เช่น Rejuran (รีจูรัน), เมโสหน้าใส หรือสารเติมความชุ่มชื้นกลุ่ม HA โมเลกุลเล็กอย่าง Juvelook ใต้ตา จะช่วยฟื้นฟูคุณภาพผิวโดยตรง ด้วยการเติมสารบำรุงและความชุ่มชื้นเข้าสู่ผิวชั้นตื้น กระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนใหม่ หลังทำผิวรอบดวงตาจะดูอิ่มฟู เรียบเนียน และแข็งแรงขึ้น ริ้วรอยตื้น ๆ ก็จะค่อย ๆ จางลงอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะมากสำหรับคนที่อยากให้ผิวดูสดใสขึ้นโดยไม่ต้องเปลี่ยนรูปหน้าเลยค่ะ


วิธีป้องกันรอยตีนกา
เรารู้วิธีแก้แล้ว แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือการป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้น หรือชะลอให้มันมาเยือนช้าที่สุดค่ะ ซึ่งทำได้ง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
สรุป
วิธีลดรอยตีนกาอย่างได้ผลตั้งแต่การใช้อายครีมเป็นประจำ, การทำเลเซอร์หรือทรีตเมนต์ ไปจนถึงหัตถการที่แก้ได้ตรงจุดอย่างโบท็อกซ์ สำหรับรอยเวลายิ้ม และฟิลเลอร์ สำหรับร่องลึกถาวร และอย่าลืมดูแลผิวรอบดวงตาในทุกวัน ทั้งการทาครีมกันแดด, ใส่แว่นกันแดด และหลีกเลี่ยงการขยี้ตา เพราะการป้องกันคือวิธีที่ช่วยชะลอริ้วรอยได้ดีที่สุด หากยังไม่แน่ใจว่าควรแก้ไขด้วยวิธีไหนดี แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอเฉพาะทางที่ ยองโด คลินิก เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นโบท็อกซ์, ฟิลเลอร์ หรือ Skin Booster เพื่อให้ทุกคนกลับมายิ้มได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง โดยไม่ต้องกังวลกับริ้วรอยรอบดวงตาอีกต่อไป ทักหาเราได้เลยค่าา!






