| |

10 วิธีทำให้หน้าเรียว V shape แก้ปัญหาหน้าบาน ลดแก้ม

10 วิธีทำให้หน้าเรียว V shape แก้หน้าบานให้เรียวขึ้นแบบเห็นผลจริง
เชื่อว่าหลายคนอยากมีใบหน้าที่ดูเรียวสวยได้รูปใช่ไหมคะ แต่ก็ต้องเจอกับปัญหาหน้าใหญ่ แก้มเยอะ หรือแนวกรามไม่ชัด จนทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ ปัญหาเหล่านี้จริง ๆ แล้วมีสาเหตุที่แตกต่างกันไป บทความนี้ ยองโด คลินิก เลยจะพาไปเข้าใจสาเหตุของปัญหาเหล่านี้ พร้อมแนะนำวิธีทำให้หน้าเรียวแบบง่าย ๆ ที่เราสามารถทำเองได้ รวมถึงเทคนิคช่วยเพิ่มความเป๊ะ ให้เห็นผลชัดขึ้นด้วย ลองมาดูกันดีกว่าว่ามีวิธีไหนที่เหมาะกับเราบ้าง!

สาเหตุของปัญหาหน้าใหญ่ หน้าบาน เกิดจากอะไร

ก่อนจะไปดูวิธีทำให้หน้าเรียว เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าปัญหานี้เกิดจากอะไรได้บ้าง?
  • โครงสร้างกระดูกและกรรมพันธุ์ 
    เรื่องโครงสร้างกระดูกกับรูปหน้าของเรา มันมากับกรรมพันธุ์ตั้งแต่เกิดเลยค่ะ ถ้ากระดูกกรามหรือโหนกแก้มเราค่อนข้างใหญ่ตามธรรมชาติ ก็จะทำให้หน้าดูบานกว้างขึ้นได้ การจะแก้ตรงโครงสร้างกระดูกเลย ก็ต้องพึ่งศัลยกรรมเท่านั้นนะคะ แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะยังมีวิธีปรับส่วนอื่น ๆ อย่างกล้ามเนื้อและไขมันรอบหน้า ที่ช่วยให้หน้าดูเรียวและสมส่วนขึ้นได้เหมือนกัน
  • ขนาดของกล้ามเนื้อกราม (Masseter Muscle)
    กล้ามเนื้อกรามนี่ก็เป็นสาเหตุที่เจอบ่อยเลยนะคะ อยู่ตรงมุมกรามทั้งสองข้าง ถ้าเราชอบเคี้ยวของเหนียว ๆ แข็ง ๆ หรือบางทีนอนกัดฟันโดยไม่รู้ตัว ก็จะทำให้กล้ามเนื้อนี้ทำงานหนักและขยายใหญ่ขึ้น และทำให้หน้าเรากว้างขึ้นด้วย 
  • ไขมันสะสมบริเวณแก้มและเหนียง
    ไขมันสะสมก็เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้หน้าดูกลมและใหญ่ ได้เหมือนกันค่ะ โดยเฉพาะไขมันตรงแก้มกับเหนียง (ใต้คาง) ซึ่งบางทีไขมันพวกนี้อาจจะมาจากน้ำหนักตัวโดยรวม หรือบางคนก็มีกรรมพันธุ์ที่ทำให้ไขมันชอบไปสะสมตรงใบหน้ามากกว่าส่วนอื่น แม้ว่าจะไม่ใช่คนอ้วนก็ตาม  
  • อาการบวมจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต
    บางทีหน้าใหญ่ขึ้น อาจไม่ใช่เพราะกระดูก กล้ามเนื้อ หรือไขมันถาวรนะคะ แต่มันอาจเป็นแค่บวมน้ำชั่วคราวจากพฤติกรรมประจำวันของเราเอง เช่น กินเค็มจัด, ดื่มแอลกอฮอล์ หรือพักผ่อนน้อย ก็ทำให้ร่างกายบวมน้ำง่ายขึ้น โดยเฉพาะตอนเช้าที่ตื่นมา จะเห็นหน้าบวมได้ชัดเจนเลยค่ะ

รวม 10 วิธีทำให้หน้าเรียว สวยเป็น V shape

หลังจากที่รู้แล้วว่าปัญหาของเราเกิดจากอะไร ทีนี้เรามาดูวิธีแก้ไขในแต่ละแบบกันบ้างดีกว่าค่ะ

1. นวดหน้ากระตุ้นการไหลเวียน

การนวดหน้าเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ทำเองได้ที่บ้านเลยค่ะ การนวดจะช่วยกระตุ้นระบบน้ำเหลืองให้ทำงานดีขึ้น ของเสียกับน้ำส่วนเกินที่คั่งค้างอยู่ก็จะถูกขับออกไป ทำให้หน้าที่ดูบวมลดลงและดูกระชับขึ้นชั่วคราว เหมาะมากถ้านวดตอนเช้าเพื่อช่วยลดอาการบวม แต่อย่าลืมนะคะว่าเป็นเพียงวิธีแก้ไขเฉพาะหน้า ยังไม่ใช่วิธีแก้ที่ถาวรค่ะ

2. ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ อย่างวิ่ง ว่ายน้ำ หรือเต้น ช่วยเผาผลาญไขมันทั่วร่างกายได้ดีเลยค่ะ รวมถึงไขมันบนหน้าและเหนียงด้วย แถมยังดีต่อสุขภาพโดยรวมด้วยนะคะ วิธีนี้ต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอหน่อย แต่ถ้าทำได้จริง ๆ รับรองว่าเห็นผลระยะยาวแน่นอน!

3. ปรับการกินลดเค็ม ลดบวม

อาหารที่เรากินส่งผลได้เหมือนกันค่ะ โดยเฉพาะถ้าเรากินเค็มจัด ที่มีโซเดียมสูง พอเรารับโซเดียมเข้าไปเยอะ ๆ ร่างกายจะพยายามเก็บน้ำไว้เพื่อรักษาสมดุล นี่เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้เราตื่นมาแล้วรู้สึกหน้าบวมหรือตัวบวมนั่นเองค่ะ ลองลดของเค็มลง แล้วเพิ่มอาหารที่มีโพแทสเซียมสูงอย่างกล้วยหรือผักใบเขียวเข้ามาในเมนูดูนะคะ จะช่วยปรับสมดุลน้ำในร่างกายได้ดีขึ้น

4. เปลี่ยนทรงผม พรางตาให้หน้าดูเล็กลง

นี่เป็นเทคนิคง่าย ๆ ที่ช่วยหลอกตาให้หน้าดูเล็กลงทันทีเลยค่ะ แค่เปลี่ยนทรงผมให้เหมาะกับหน้า เช่น ไว้ผมยาวแบบมีเลเยอร์ไล่ระดับตามกรอบหน้า หรือไว้หน้าม้าปัดข้าง ก็ช่วยสร้างมิติ ทำให้หน้าดูยาวและสมดุลขึ้นมาก ๆ วิธีนี้ง่าย ไม่ต้องเจ็บตัวเลยค่ะ!

5. ใช้เทคนิคแต่งหน้า (Contouring)

การคอนทัวร์หน้าก็คือการเล่นกับแสงและเงาให้หน้าดูมีมิติมากขึ้นค่ะ วิธีง่าย ๆ คือ ใช้เครื่องสำอางสีเข้มกว่าผิวเรา คอนทัวร์แต้มตรงกรอบหน้า, ใต้โหนกแก้ม หรือข้างสันจมูก เพื่อสร้างเงาให้หน้าดูเล็กลง แล้วก็ใช้สีสว่างไฮไลท์ แต้มตรงหน้าผาก, สันจมูก และคาง เพื่อดึงจุดเด่นออกมา เทคนิคนี้เหมาะมากสำหรับวันที่อยากเพิ่มความมั่นใจแบบเร่งด่วน
โบท็อกซ์ลดกรามและยกกระชับกรอบหน้า ก่อน-หลัง
โบท็อกซ์กรามและสลายไขมัน ก่อน-หลัง

ปรึกษากับแพทย์หรือที่ปรึกษาความงาม

ติดต่อผ่านโทรศัพท์-สาขาปราจีน-02
ติดต่อ Line-04
ติดต่อ Messenger-03

6. โบท็อกซ์

ถ้าพูดถึงวิธีแก้ปัญหาหน้าบานที่เกิดจากกล้ามเนื้อกรามใหญ่แบบไม่ต้องผ่าตัด โบท็อกซ์ (Botox) ถือเป็นตัวเลือกยอดฮิตและตรงจุดสุด ๆ เพราะกลไกของโบท็อกซ์จะเข้าไปยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณกราม ทำให้กล้ามเนื้อไม่หดเกร็งและไม่ถูกใช้งานหนักเหมือนเดิม เมื่อเวลาผ่านไป กล้ามเนื้อกรามก็จะค่อย ๆ เล็กลง ส่งผลให้รูปหน้าดูเรียวขึ้น และได้ทรง V-shape ที่หลายคนต้องการ
โดยทั่วไป หลังฉีดโบท็อกซ์จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในช่วงประมาณ 2-4 สัปดาห์ และผลลัพธ์จะอยู่ได้ราว 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพกล้ามเนื้อและพฤติกรรมการใช้งาน เช่น เคี้ยวอาหารแข็งหรือเคี้ยวหมากฝรั่งบ่อย ๆ อาจทำให้ผลอยู่สั้นลง ข้อดีอีกอย่างคือวิธีนี้สะดวกมาก ใช้เวลาไม่นาน, เจ็บน้อย และไม่ต้องพักฟื้นนาน เหมาะสำหรับคนที่อยากปรับรูปหน้าให้ดูเล็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องเจ็บตัวจากการผ่าตัดค่ะ
การสลายไขมันหน้า ก่อน-หลัง
การฉีดสลายไขมัน

7. เมโสแฟต

เมโสแฟตเป็นวิธีที่หลายคนเลือกใช้เมื่ออยากลดไขมันส่วนเกินบนใบหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด เหมาะมากสำหรับคนที่มีปัญหาหน้าใหญ่จากไขมันสะสมเฉพาะจุด เช่น แก้มป่อง, เหนียงเยอะ หรือกรอบหน้าไม่ชัด โดยหลักการคือจะใช้ตัวยาเมโสแฟตฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณที่มีไขมัน เพื่อกระตุ้นให้เซลล์ไขมันแตกตัวและถูกขับออกทางระบบเผาผลาญของร่างกายตามธรรมชาติ ทำให้สัดส่วนบริเวณนั้นค่อย ๆ ลดลง
ที่ ยองโด คลินิก จะมีโปรแกรมยอดฮิต เช่น แฟต Bromi หรือแฟตน้ำแดง ซึ่งออกแบบมาเพื่อลดไขมันแก้มและเหนียงโดยเฉพาะ ช่วยให้หน้าดูเรียว, กรอบหน้าคมขึ้น และเหมาะสำหรับคนที่อยากได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ หลังทำอาจมีบวมเล็กน้อย 1-3 วัน และส่วนใหญ่จะเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจนเมื่อทำต่อเนื่องประมาณ 3-5 ครั้ง ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันของแต่ละคนด้วยค่ะ
การกระตุ้นคอลลาเจนและเก็บกรอบหน้า
การยกกระชับใบหน้า ก่อน-หลัง

ปรึกษากับแพทย์หรือที่ปรึกษาความงาม

ติดต่อผ่านโทรศัพท์-สาขาปราจีน-02
ติดต่อ Line-04
ติดต่อ Messenger-03

8. Hifu / Ulthera ยกกระชับผิว

สำหรับใครที่เริ่มรู้สึกว่าหน้าดูหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่คมเหมือนเดิม หรือเริ่มมีริ้วรอยตามวัย เทคโนโลยียกกระชับผิวอย่าง Hifu และ Ulthera ถือว่าเป็นตัวช่วยที่ตอบโจทย์มาก ๆ เลยค่ะ เพราะทั้งสองอย่างนี้ใช้พลังงานคลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูงส่งลงไปถึงชั้นผิวลึก (SMAS Layer) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ดึงหน้าใช้ผ่าตัด เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่
ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวที่ค่อย ๆ ตึงขึ้น กรอบหน้าชัดขึ้น และใบหน้าดูยกกระชับอย่างเป็นธรรมชาติ โดยข้อดีคือไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเลย เหมาะมากสำหรับคนที่อยากยกหน้าแต่ไม่พร้อมผ่าตัด ผลจะค่อย ๆ ดีขึ้นในช่วง 2-3 เดือนหลังทำ แต่ถ้าดูแลต่อเนื่องก็ช่วยชะลอความหย่อนคล้อยไปได้อีกนานเลยค่ะ
การร้อยไหมยกกระชับปรับรูปหน้า

9. ร้อยไหม

การร้อยไหมเป็นเทคนิคยอดฮิตสำหรับคนที่อยากยกกระชับและปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวยขึ้นทันตา วิธีนี้ใช้ไหมละลายชนิดพิเศษที่มีเงี่ยงเล็ก ๆ สอดเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อเกี่ยวและดึงผิวที่หย่อนคล้อยให้ยกขึ้น เหมาะมากสำหรับคนที่มีปัญหาแก้มห้อย กรอบหน้าไม่ชัด หรือผิวเริ่มหย่อนเพราะอายุเพิ่มขึ้น
ข้อดีของการร้อยไหมคือ เห็นผลยกกระชับได้เลยหลังทำ และไม่ต้องพักฟื้นนาน อีกทั้งไหมละลายยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวแน่นขึ้น, รูขุมขนกระชับ และดูสุขภาพดีขึ้นเรื่อย ๆ ในระยะยาว
เทคนิคนี้มักใช้เวลาทำไม่นาน (ประมาณ 30-60 นาที) หลังทำอาจมีรอยบวมช้ำเล็กน้อยแต่จะค่อย ๆ หายไปในไม่กี่วัน เหมาะกับคนที่ต้องการยกกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัด และคนที่อยากกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวช่วยให้ผิวสุขภาพดีแบบยาว ๆ เลยค่ะ
ฟิลเลอร์คาง ก่อน-หลัง มุมด้านข้าง
ฟิลเลอร์คาง ก่อน-หลัง มุมด้านหน้า

ปรึกษากับแพทย์หรือที่ปรึกษาความงาม

ติดต่อผ่านโทรศัพท์-สาขาปราจีน-02
ติดต่อ Line-04
ติดต่อ Messenger-03

10. ฉีดฟิลเลอร์คางให้หน้าเรียวยาวขึ้น

วิธีนี้อาจฟังดูแปลกสำหรับบางคน แต่จริง ๆ แล้วเป็นเทคนิคยอดฮิตของคนที่อยากได้รูปหน้าแบบ V-shape เลยนะคะ เพราะการฉีดฟิลเลอร์ที่คางสามารถช่วยปรับโครงหน้าได้ทันที เหมาะมากสำหรับคนที่มีคางสั้น, คางตัด หรือคางถอย ซึ่งทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วน ฟิลเลอร์จะช่วยเพิ่มความยาวและปรับองศาของคางให้รับกับกรอบหน้า พอคางได้รูปแล้ว ช่วงกรามกับคางจะดูกลมกลืน ทำให้หน้าเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
นอกจากนี้ ข้อดีคือทำแล้วเห็นผลได้เร็วหลังฉีด ไม่ต้องรอนาน และไม่ต้องพักฟื้นนานเหมือนการผ่าตัดเสริมคาง แถมยังสามารถปรับปริมาณฟิลเลอร์และทรงคางได้ตามความต้องการ เรียกว่าเป็นวิธีที่ทั้งรวดเร็วและเหมาะกับคนที่อยากหน้าเรียวขึ้นแบบไม่ต้องเจ็บตัวเยอะเลยค่ะ

อยากหน้าเรียว เลือกทำแบบไหนดี?

การเลือกวิธีทำหน้าเรียวให้เหมาะกับตัวเอง สิ่งสำคัญคือต้องรู้ก่อนว่าปัญหาที่ทำให้หน้าเราดูไม่เรียวมาจากอะไร เพื่อที่จะเลือกวิธีแก้ให้ตรงจุดที่สุด ซึ่งสามารถสังเกตได้จากสาเหตุหลัก ๆ ดังนี้
  • ถ้าปัญหาเกิดจากกล้ามเนื้อกรามใหญ่ โบท็อกซ์ คือคำตอบที่เหมาะที่สุด เพราะจะช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อกราม ทำให้กรามเล็กลงและรูปหน้าดูเรียวขึ้น
  • ถ้ามีไขมันสะสมที่แก้มหรือเหนียง  เลือกเมโสแฟต เพื่อลดไขมันเฉพาะจุด ช่วยให้ใบหน้าดูเล็กลงและกรอบหน้าคมขึ้น
  • ถ้าใบหน้าดูกว้างเพราะผิวหย่อนคล้อย เทคนิค Hifu / Ulthera หรือ ร้อยไหม จะช่วยยกผิวให้กระชับ พร้อมคืนความชัดให้กรอบหน้า
  • ถ้าอยากปรับสัดส่วนใบหน้า ฟิลเลอร์คาง จะช่วยยืดคางให้ได้รูป ทำให้หน้าโดยรวมดูเป็น V-shape ได้ค่ะ
แต่ไม่ว่าจะเข้าข่ายข้อไหน การเข้ามาให้คุณหมอประเมินโดยตรงถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดค่ะ เพราะคุณหมอจะช่วยวิเคราะห์ว่าใบหน้าของเราควรใช้วิธีใด หรือควรผสมผสานหลายเทคนิคเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและเป็นธรรมชาติที่สุด

สรุป

วิธีทำให้หน้าเรียวมีให้เลือกหลากหลายมากเลยค่ะ ตั้งแต่วิธีง่าย ๆ ที่เราดูแลตัวเองได้ เช่น ปรับพฤติกรรมการกิน, ออกกำลังกาย หรือใช้เทคนิคการแต่งหน้าและทำผมช่วยปรับลุค ไปจนถึงการเลือกใช้เทคโนโลยีและหัตถการทางการแพทย์ที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนและรวดเร็ว เช่น โบท็อกซ์, เมโสแฟต, ร้อยไหม หรือ Hifu ยกกระชับ
ที่ ยองโด คลินิก เราเข้าใจดีว่าแต่ละคนมีปัญหาและโครงสร้างใบหน้าที่ต่างกันออกไป คุณหมอของเราพร้อมให้คำปรึกษาอย่างละเอียด วิเคราะห์ปัญหาอย่างตรงจุด และแนะนำวิธีที่เหมาะสมที่สุดให้แบบเฉพาะตัวเลยค่ะ  ถ้าอยากปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้นอย่างปลอดภัยและมั่นใจ ติดต่อเราได้เลยนะคะ!

FAQ

ความเร็วขึ้นอยู่กับสาเหตุของปัญหาค่ะ แต่ถ้าเป็นหัตถการการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม หรือการฉีดฟิลเลอร์คาง จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในไม่กี่สัปดาห์ ส่วนการร้อยไหมก็จะเห็นผลเรื่องการยกกระชับได้เลยหลังทำค่ะ

ได้แน่นอนค่ะ วิธีที่แนะนำ เช่น โบท็อกซ์, ฟิลเลอร์, เมโสแฟต, Hifu และร้อยไหม ล้วนเป็นหัตถการที่ไม่ใช่การผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้น ซึ่งสามารถช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวลงได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ

การนวดหน้าช่วยให้หน้าเรียวขึ้นได้จริงค่ะ การนวดจะช่วยลดอาการบวมน้ำและกระตุ้นการไหลเวียนของน้ำเหลืองได้ดี เป็นวิธีลดหน้าบวมแบบชั่วคราว ไม่ใช่วิธีที่ถาวรนะคะ

ปรึกษากับแพทย์หรือที่ปรึกษาความงาม

ติดต่อผ่านโทรศัพท์-สาขาปราจีน-02
ติดต่อ Line-04
ติดต่อ Messenger-03