จี้ไฝ ขี้แมลงวัน กระเนื้อ ติ่งเนื้อ คลินิกปราจีนบุรีไหนดี เพื่อผิวเนียนใส

จี้ไฝ ขี้แมลงวัน กระเนื้อและติ่งเนื้อ ที่ไหนดี เพื่อผิวเนียนใสในแบบคุณ
ไฝ, ขี้แมลงวัน กระเนื้อหรือติ่งเนื้อบนผิว ถึงจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ก็ทำให้หลายคนแอบกังวลใจไม่น้อยใช่ไหมล่ะคะ? พอคิดจะไปกำจัดออก อย่างการจี้ไฝ ก็เกิดคำถามสำคัญขึ้นมาทันทีว่าจะไปทำที่ไหนดี? แล้วจะเลือกคลินิกยังไงให้มั่นใจ วันนี้ ยองโด คลินิก เลยได้รวบรวมข้อมูลและสิ่งที่ควรรู้แบบครบถ้วน มาฝากทุกคนกันในบทความนี้ค่า!
ไฝ ขี้แมลงวัน กระเนื้อ ติ่งเนื้อ คืออะไร?

ปรึกษากับแพทย์หรือที่ปรึกษาความงาม

ติดต่อผ่านโทรศัพท์-สาขาปราจีน-02
ติดต่อ Line-04
ติดต่อ Messenger-03

ไฝ ขี้แมลงวัน กระเนื้อ ติ่งเนื้อ คืออะไร?

ก่อนจะตัดสินใจจี้ไฝ เรามาทำความรู้จักกันก่อนว่าจุดบนผิวที่เรากังวลใจอยู่นั้น มันคืออะไร
  • ไฝ (Mole)
    ไฝเป็นจุดเล็ก ๆ บนผิวที่เราคุ้นเคยกันดี มีได้หลายสีตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงดำ และมีทั้งแบบที่เรียบไปกับผิวและแบบที่นูนขึ้นมาค่ะ สาเหตุเกิดจากการที่เซลล์สร้างเม็ดสีใต้ผิวหนังของเรามารวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนมากกว่าปกติ ซึ่งไฝส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใดค่ะ
  • ขี้แมลงวัน (Lentigo)
    ขี้แมลงวันก็มีลักษณะคล้ายไฝแต่มีขนาดเล็กกว่ามาก ๆ ค่ะ จะเป็นจุดสีดำหรือน้ำตาลเข้มที่เรียบไปกับผิวแบบเสมอไปเลย ไม่มีความนูน อาจขึ้นมาแค่จุดเดียว หรือขึ้นมาหลายจุดอยู่ใกล้ ๆ กันก็ได้ 
  • กระเนื้อ (Seborrheic Keratosis) 
    กระเนื้อ เกิดจากเซลล์ผิวหนังชั้นบนสุดเติบโตหนาขึ้นผิดปกติ แต่ไม่เป็นอันตรายนะคะ จะมีลักษณะเป็นตุ่มนูนสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงสีดำเข้ม ผิวสัมผัสอาจจะดูขรุขระนิด ๆ คล้ายกับหูด โดยมักจะพบได้บ่อยขึ้นในกลุ่มคนที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปค่ะ
  • ติ่งเนื้อ (Skin Tag)
    เป็นชิ้นเนื้อขนาดเล็กที่งอกออกมาจากผิวหนังและไม่เป็นอันตรายเช่นกันค่ะ จุดสังเกต คือมันจะนิ่ม และมีก้านหรือขั้วเล็ก ๆ ยื่นออกมาจากผิวอย่างชัดเจน สีมักจะใกล้เคียงกับสีผิวจริงหรือเข้มกว่าเล็กน้อย โดยจะพบได้บ่อยในบริเวณที่มีการเสียดสีเป็นประจำ เช่น ลำคอ, ใต้ราวนม หรือรักแร้

ไฝ ขี้แมลงวัน กระเนื้อ ติ่งเนื้อ อันตรายไหม ควรพบแพทย์หรือเปล่า

โดยส่วนใหญ่แล้ว จุดต่าง ๆ บนผิวเหล่านี้ไม่เป็นอันตรายค่ะ เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงของผิวตามปกติเท่านั้น แต่เราก็ควรสังเกตจุดบนร่างกายของเราอยู่เสมอนะคะ ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ทันที หากพบว่าจุดเหล่านั้นโตเร็วผิดปกติ, มีรูปทรงเปลี่ยนไป, ขอบเริ่มไม่เรียบหรือเป็นหยัก, มีสีที่ไม่สม่ำเสมอในเม็ดเดียว หรือมีขนาดใหญ่กว่ายางลบที่ปลายดินสอ (ประมาณ 6 มม.)
รวมไปถึงถ้ามีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น รู้สึกคัน, เจ็บ หรือมีเลือดออกง่าย หรือง่าย ๆ คือถ้าหากรู้สึกว่าจุดบนผิวของเราดูไม่เหมือนเดิม การเข้ามาให้คุณหมอตรวจดูให้แน่ใจคือวิธีที่ดีและสบายใจที่สุดค่ะ
รวมวิธีรักษา ไฝ ติ่งเนื้อยอดนิยม แบบไหนเหมาะกับเรา?

รวมวิธีรักษาไฝ ติ่งเนื้อยอดนิยม แบบไหนเหมาะกับเรา?

ปัจจุบันมีเทคโนโลยีจี้ไฝ ออกเยอะเลยค่ะ ซึ่งแต่ละวิธีก็มีจุดเด่นและเหมาะกับปัญหาผิวที่แตกต่างกันไป โดยวิธีที่ได้รับความนิยมในคลินิกเสริมความงาม มีดังนี้ค่ะ

การใช้เลเซอร์ CO2

เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน โดยเป็นการใช้พลังงานแสงเลเซอร์ความเข้มข้นสูงยิงไปที่ไฝหรือติ่งเนื้อโดยเฉพาะ เพื่อทำลายเซลล์เม็ดสีและทำให้เนื้อเยื่อค่อย ๆ สลายไปอย่างอ่อนโยน 
วิธีนี้มีความแม่นยำสูงมาก ทำให้เนื้อเยื่อรอบ ๆ ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด จึงเหมาะกับไฝเม็ดเล็ก ๆ, ขี้แมลงวัน หรือกระเนื้อ หลังทำแผลจะมีขนาดเล็กมา, ดูแลง่าย แถมยังมีโอกาสเกิดแผลเป็นได้น้อยอีกด้วยค่ะ

การจี้ด้วยไฟฟ้า

วิธีนี้เป็นการใช้เครื่องมือที่ส่งกระแสไฟฟ้าความถี่สูงเพื่อสร้างความร้อนที่ปลายหัวจี้ขนาดเล็ก แล้วจี้ไปที่ไฝหรือติ่งเนื้อเพื่อทำลายเนื้อเยื่อให้หลุดออกไป เหมาะกับการกำจัดติ่งเนื้อที่มีขั้วยื่นออกมา หรือกระเนื้อที่มีลักษณะนูนขึ้นมาชัดเจน เพราะความร้อนจะช่วยหยุดเลือดได้ในตัว เป็นวิธีที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ หลังทำจะมีสะเก็ดเล็ก ๆ และจะค่อย ๆ หลุดออกไปเองเลยค่ะ

การผ่าตัด

วิธีนี้ถือเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับไฝเม็ดใหญ่, ไฝที่มีรากลึก หรือไฝที่ดูน่าสงสัยว่าอาจเป็นเนื้อร้ายค่ะ โดยคุณหมอจะใช้มีดผ่าตัดเพื่อนำไฝหรือติ่งเนื้อออกไปทั้งชิ้นจนถึงราก จุดเด่นของวิธีนี้คือโอกาสที่ไฝจะกลับมาเป็นซ้ำน้อยมาก ๆ และยังสามารถนำชิ้นเนื้อนั้นไปส่งตรวจเพื่อยืนยันให้แน่ใจได้อีกด้วย
แต่ก็ต้องเข้าใจว่าการผ่าตัดจะทิ้งรอยแผลเป็นจากการเย็บไว้ ซึ่งการดูแลแผลตามคำแนะนำของหมอเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้แผลสวยและลดโอกาสการเกิดแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ในอนาคตได้ค่ะ
การดูแลตัวเองหลังจี้ไฝ

ปรึกษากับแพทย์หรือที่ปรึกษาความงาม

ติดต่อผ่านโทรศัพท์-สาขาปราจีน-02
ติดต่อ Line-04
ติดต่อ Messenger-03

หลังจี้ไฝดูแลตัวเองอย่างไร

เพื่อให้แผลหายไว และไม่ทิ้งรอยดำกวนใจ การดูแลตัวเองหลังทำเลเซอร์เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ค่ะ โดยมีข้อควรปฏิบัติดังนี้
  • ห้ามแผลโดนน้ำ 24 ชั่วโมงแรก
    ในวันแรกหลังทำ พยายามอย่าให้แผลโดนน้ำเด็ดขาด เพื่อให้แผลเริ่มกระบวนการสมานตัวเองได้ดีที่สุด
  • ทำความสะอาดแผลเบา ๆ 
    หลังจาก 24 ชั่วโมง สามารถทำความสะอาดแผลได้วันละ 1-2 ครั้ง โดยใช้สำลีชุบน้ำเกลือสำหรับล้างแผล ซับเบา ๆ แล้วซับให้แห้งสนิท
  • ทายาตามหมอสั่ง
    ทายาฆ่าเชื้อหรือขี้ผึ้ง (Ointment)ที่แผลเป็นประจำ เพื่อรักษาความชุ่มชื้น, ป้องกันเชื้อโรค และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้นค่ะ
  • ห้ามแกะแผลเด็ดขาด
    ในช่วง 7-14 วันแผลจะเริ่มแห้งและเกิดสะเก็ดขึ้นมา ต้องปล่อยให้มันหลุดลอกออกไปเองตามธรรมชาตินะคะ การแกะหรือเกาอาจทำให้เกิดแผลเป็นหรือรอยดำได้
  • ใช้ครีมกันแดด
    หลังจากสะเก็ดหลุดแล้ว ผิวใหม่จะยังบอบบางและไวต่อแสงมาก ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปเป็นประจำทุกวัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยดำหลังทำ
  • หลีกเลี่ยงสกินแคร์ที่ระคายเคือง
    ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ควรงดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์, กรดผลไม้ (AHA/BHA) หรือวิตามินเอ (Retinoids) บริเวณแผล เพื่อลดการเกิดการระคายเคืองค่ะ 
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของหมอ
    หากมีข้อสงสัยหรือพบความผิดปกติ เช่น แผลบวมแดงมาก, มีหนอง หรือเจ็บปวดผิดปกติ ควรรีบติดต่อคลินิกเพื่อปรึกษาทันทีนะคะ

จี้ไฝ ขี้แมลงวัน ปราจีนบุรี คลินิกเพื่อผิวสวยใกล้คุณ

รู้จักไฝและติ่งเนื้อชนิดต่าง ๆ กันไปแล้ว สบายใจขึ้นเยอะเลยใช่ไหมคะว่าการเอาจุดเล็ก ๆ พวกนี้ออกไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเลย เคล็ดลับมันง่ายนิดเดียวแค่เราเข้าใจผิวตัวเอง และเลือกวิธีที่ใช่ แต่ที่สำคัญสุดเลยก็คือ ต้องเลือกคลินิกกับคุณหมอให้ดี ๆ ค่ะ! เพราะนี่คือตัวตัดสินเลยว่าจะออกมาสวยเนียนและปลอดภัยหรือเปล่า
สำหรับชาวปราจีนบุรีหรือใครที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ที่กำลังมองหาคลินิกจี้ไฝ ปราจีนบุรี ที่ไว้ใจได้ ไม่ต้องมองหาที่ไหนไกลเลยค่ะ แวะมาที่ ยองโด คลินิก ได้เลย! เรามีทั้งทีมคุณหมอที่มีประสบการณ์เรื่องผิวโดยตรง พร้อมเครื่องมือที่ทันสมัย ใครกังวลใจเรื่องไหนหรือมีจุดไหนอยากให้คุณหมอช่วยดู ทักมาคุยปรึกษาก่อนได้หรือจะแวะเข้ามาที่คลินิกเลยก็ได้นะคะ มาให้เราช่วยดูแลผิวสวย ๆ ของคุณกันค่ะ!

FAQ

ต้องบอกว่าไม่รู้สึกเจ็บเลยค่ะ เพราะก่อนทำจะมีการทายาชาหรือฉีดยาชาให้ก่อน ทำให้ระหว่างทำไม่รู้สึกเจ็บ ส่วนหลังทำอาจมีอาการแสบเล็กน้อยแค่ชั่วคราวเท่านั้น

แนะนำให้งดโดนน้ำ 24 ชั่วโมงแรก ค่ะ หลังจากนั้นสามารถโดนน้ำได้ตามปกติ แต่ควรซับให้แห้งทันทีและไม่ควรถูบริเวณแผลแรง ๆ ค่ะ

โดยทั่วไปสะเก็ดจะหลุดออกเองใน 7-14 วัน (ห้ามแกะเด็ดขาด!) จากนั้นผิวจะค่อย ๆ กลับมาเป็นสีปกติใน 2-4 สัปดาห์ขึ้นไปค่ะ

ปรึกษากับแพทย์หรือที่ปรึกษาความงาม

ติดต่อผ่านโทรศัพท์-สาขาปราจีน-02
ติดต่อ Line-04
ติดต่อ Messenger-03