รวมวิธีรักษาฝ้าให้หายขาด คืนผิวใสให้คุณอีกครั้ง

ฝ้าบนใบหน้าเป็นเรื่องกวนใจของใครหลายคนเลยใช่ไหมคะ ไม่ว่าจะเป็นรอยดำตรงแก้ม หน้าผาก หรือสันจมูก ก็ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจเวลาออกจากบ้านแต่ไม่ต้องเครียดไปนะคะ เพราะฝ้าไม่ใช่ปัญหาที่แก้ไม่ได้ค่ะ วันนี้ยองโด คลินิก ได้รวบรวมวิธีรักษาฝ้า มาให้ไม่ว่าจะเป็นเคล็ดลับการดูแลตัวเองง่าย ๆ หรือเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยจัดการฝ้าได้ตรงจุด มาดูกันค่ะว่าแต่ละวิธีมีอะไรบ้าง และแบบไหนเหมาะกับเราที่สุด
ฝ้าเกิดจากอะไร และมีกี่ประเภท
ฝ้าเกิดจากการที่เซลล์สร้างเม็ดสี (Melanocyte) ทำงานผิดปกติและผลิตเม็ดสีเมลานินออกมามากเกินไป จนทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นมีสีเข้มขึ้นเป็นปื้น ๆ ค่ะ โดยมีปัจจัยกระตุ้นหลักมาจากแสงแดด โดยเฉพาะรังสี UVA และ UVB หรือฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง เช่น ในช่วงตั้งครรภ์ หรือการทานยาคุมกำเนิด และ กรรมพันธุ์ ก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน นอกจากนี้ การใช้เครื่องสำอางบางชนิดหรือการพักผ่อนไม่เพียงพอก็สามารถกระตุ้นให้ฝ้าเข้มขึ้นได้เช่นกันค่ะ
ฝ้ามีกี่ประเภท?
โดยทั่วไปเราสามารถแบ่งฝ้าตามความลึกของเม็ดสีได้เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ค่ะ
รวมวิธีรักษาฝ้า มีอะไรบ้าง?
ปัจจุบันมีวิธีรักษาฝ้าให้เลือกหลากหลาย ทั้งสายธรรมชาติและเทคโนโลยีทางการแพทย์ ดังนี้ค่ะ
1. ทาครีมลดฝ้า
วิธีเบสิคที่ใครก็เริ่มได้เลยคือการทาครีมค่ะ เพราะเป็นตัวช่วยพื้นฐานที่ช่วยดูแลผิวแบบง่าย ๆ แค่เลือกครีมที่มีส่วนผสมลดเม็ดสี เช่น วิตามินซี, อาร์บูติน, กรดโคจิก หรือกรดไกลโคลิก ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ใช้เป็นประจำทุกวันก็ช่วยให้ฝ้าค่อย ๆ จางลง สีผิวดูสม่ำเสมอขึ้น ที่สำคัญต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือและอ่อนโยนกับผิวเรานะคะ จะได้ไม่เสี่ยงผิวพังหรือฝ้าเข้มกว่าเดิม
2. ทาครีมกันแดด
ข้อนี้สำคัญสุด ๆ เลยค่ะ เพราะแสงแดดคือศัตรูตัวร้ายของฝ้าเลย ต่อให้รักษายังไง ถ้าไม่กันแดด ฝ้าก็วนกลับมาได้ตลอด เพราะงั้นต้องทาครีมกันแดดทุกวันและควรเลือกที่มี SPF 50+ PA++++ ขึ้นไป ทาให้พอเหมาะทั่วหน้า และถ้าออกแดดนาน ๆ ก็อย่าลืมทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมงด้วยนะคะ การใช้กันแดดจะช่วยเสริมให้การรักษาฝ้าเห็นผลไวขึ้นด้วยค่ะ
3. มาสก์หน้าด้วยสมุนไพรที่มีกรดอ่อน ๆ
วิธีนี้เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้ผิวหน้าดูใสขึ้น แถมยังช่วยเสริมการรักษาฝ้าแบบหลักได้อีกด้วยค่ะ สมุนไพรที่มีกรดผลไม้อ่อน ๆ อย่าง มะขามเปียกหรือน้ำมะนาว ช่วยผลัดเซลล์ผิวหมองคล้ำออกได้ ถ้าอยากให้หน้าไม่แห้งเกินไปก็แนะนำให้ผสมกับน้ำผึ้งหรือโยเกิร์ต แล้วพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที จากนั้นล้างออกให้สะอาด ผิวจะรู้สึกนุ่มใสขึ้นเลยค่ะ
แต่อย่าลืมนะว่า วิธีนี้ต้องทำอย่างเบามือหน่อย และควรทดสอบกับผิวก่อน เพราะบางคนอาจแพ้หรือระคายเคืองได้ ไม่ควรทำบ่อยเกินไปนะคะ
4. เมโสฝ้า
ใครที่อยากเห็นผลไวขึ้น เมโสฝ้าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ได้รับความนิยมมาก เพราะเป็นการฉีดตัวยาและวิตามินต่าง ๆ ที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสีผิว เข้าไปในชั้นผิวโดยตรงเลย ทำให้ตัวยาทำงานได้เต็มที่แบบตรงจุดมากกว่าการทาครีมทั่วไป รอยฝ้าที่เข้มจะค่อย ๆ จางลง และยังช่วยให้ผิวหน้าโดยรวมดูใสขึ้น ชุ่มชื้นขึ้นด้วยค่ะ เหมาะกับคนที่อยากฟื้นฟูผิวแบบเร็ว ๆ หรือเตรียมผิวให้พร้อมก่อนออกงานสำคัญ
แต่การทำเมโสฝ้าก็ต้องมีความต่อเนื่องนะคะ ส่วนใหญ่คุณหมอจะแนะนำให้ทำเป็นคอร์ส เพื่อให้ผลลัพธ์ชัดเจนและยาวนานขึ้นนั่นเองค่ะ
5. เลเซอร์รักษาฝ้า
วิธีนี้เรียกว่าเป็นตัวท็อปเลยก็ว่าได้ เพราะเห็นผลไวและช่วยลดฝ้าได้ชัดเจนมากค่ะ โดยเลเซอร์จะเข้าไปจัดการกับเม็ดสีที่ผิดปกติใต้ผิวให้แตกตัวเป็นอนุภาคเล็ก ๆ แล้วร่างกายเราก็จะค่อย ๆ ขับออกตามธรรมชาติ เทคโนโลยีที่ใช้ไม่ว่าจะเป็น Q-Switched Laser หรือ Picosecond Laser ซึ่งออกแบบมาเฉพาะเพื่อเคลียร์เม็ดสีต่าง ๆ ใต้ผิวโดยเฉพาะเลยค่ะ วิธีนี้เหมาะกับคนที่รักษาฝ้ามาหลายทางแล้วไม่ค่อยได้ผล แต่ก็ต้องเลือกทำกับคลินิกที่มีคุณหมอเชี่ยวชาญจริง ๆ นะคะ เพราะถ้าตั้งค่าพลังงานไม่เหมาะ อาจทำให้ฝ้าเข้มขึ้นแทนได้ค่ะ
เลือกวิธีรักษาฝ้าอย่างไร ให้เหมาะกับผิวตัวเอง
การเลือกวิธีที่เหมาะกับสภาพฝ้าของเราเป็นสิ่งสำคัญค่ะ เพราะถ้าเลือกถูกตั้งแต่แรก โอกาสเห็นผลก็จะเร็วและชัดเจนขึ้น โดยเราจะดูจากปัจจัยเหล่านี้ค่ะ
สรุป
จะเห็นได้ว่า วิธีรักษาฝ้าให้ได้ผลดีนั้น เริ่มจากการเข้าใจสาเหตุและเลือกวิธีที่เหมาะกับประเภทฝ้าของเรา ซึ่งก็มีให้เลือกตั้งแต่ดูแลตัวเองง่าย ๆ อย่างการทาครีมกันแดดทุกวัน ไปจนถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์อย่างเมโสฝ้าและเลเซอร์ค่ะ แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือความสม่ำเสมอในการดูแลผิว และการปกป้องผิวจากแสงแดดในทุก ๆ วันนะคะ ส่วนที่ ยองโด คลินิก เราเชี่ยวชาญเรื่องดูแลผิวโดยเฉพาะ คุณหมอพร้อมให้คำปรึกษาและวางแผนรักษาฝ้าแบบตรงจุด สนใจรักษาฝ้า อย่าลังเลทักมาคุยกับเราก่อนได้เลยนะคะ!