เสริมคางมีกี่ทรง แนะนำทรงพร้อมเทคนิคการเลือกทรงคาง

หลายคนที่กำลังคิดจะเสริมคาง ก็มักจะติดอยู่ว่าจะเอาทรงไหนดี? ไม่รู้ว่าเสริมคางมีกี่ทรง แล้วแบบไหนจะเข้ากับหน้าเราที่สุด บอกเลยว่าทรงคางไม่ใช่แค่เรื่องความสวยความหล่อนะคะ แต่เป็นจุดสำคัญที่ช่วยบาลานซ์ทั้งรูปหน้าเลย! จะทรงคางป้าน, ทรงกลม หรือ คางวีเชฟปลายแหลมหรือมน ก็ให้ฟีลที่ต่างกันค่ะ ใครยังลังเลไม่รู้จะเลือกยังไง วันนี้ ยองโด คลินิก รวมทรงคางมาให้แล้ว พร้อมบอกว่าแต่ละแบบเหมาะกับหน้าแบบไหนบ้าง ใครกำลังวางแผนเสริมคาง อย่าพลาดบทความนี้เลยน้าา
เสริมคางมีกี่ทรง?
ทรงในการเสริมคางจริง ๆ แล้วมีหลายแบบเลยค่ะ แต่ละทรงก็เหมาะกับรูปหน้าไม่เหมือนกัน เราเลยรวมทรงคางที่คนนิยมเสริมกันมากใน ยองโด คลินิก มาให้ ไปดูกันเลยค่าา
1. ทรงป้าน
คางทรงป้าน เป็นทรงที่ปลายไม่แหลมจนเกินไป ฐานจะกว้างนิด ๆ แล้วแนวคางจะออกตรง ๆ ดูละมุน จุดเด่นคือ เสริมแล้วหน้าไม่ดูโดดจนเกินไป แต่ช่วยให้รูปหน้าดูสมดุลขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ ทรงนี้จะช่วยเบรกความแข็งของแนวกรามให้กับคนที่มีใบหน้าทรงเหลี่ยมหรือหน้ากลมได้ดี ทำให้หน้าดูเรียวยาวขึ้น และช่วยเพิ่มมิติให้หน้าดูละมุนขึ้นด้วยค่ะ
ทรงป้านเหมาะกับใครบ้าง?
2. ทรงกลม
คางทรงกลม จุดเด่นเลยก็คือปลายคางจะโค้งมน ไม่มีเหลี่ยมหรือความแหลมเลย ทรงนี้จะช่วยเติมมิติให้ช่วงล่างของใบหน้าซึ่งโครงหน้าเดิมอาจจะดูดีอยู่แล้ว แต่ยังรู้สึกว่าอยากมีคางชัดขึ้นอีกนิดนึง เสริมทรงนี้คือปังเลย ได้ลุคหวานละมุนแบบพอดี ๆ เลยค่ะ
ทรงกลมเหมาะกับใครบ้าง?
3. ทรงวีเชฟปลายแหลม
ทรงนี้แหละที่หลายคนรีเควสท์บ่อยมาก คางทรงวีเชฟเป็นทรงที่ปลายคางจะเรียวยาว แหลมเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับแหลมจัดนะคะ เสริมแล้วจะช่วยให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น จุดเด่นของทรงนี้คือ ช่วยยกกรอบหน้าให้ดูชัดและมีมิติขึ้นอย่างชัดเจนค่ะ
ทรงวีเชฟเหมาะกับใครบ้าง?
4. ทรงวีเชฟปลายมน
คางทรงวีเชฟปลายมน เป็นทรงที่ยังคงความเรียวยาวสไตล์ V-shape ไว้อยู่ แต่ที่ต่างคือปลายคางจะถูกออกแบบให้โค้งมนนิด ๆ ไม่แหลมจนเกินไป ทำให้หน้าดูละมุนขึ้น แต่ก็ยังมีความคมอยู่ เหมือนผสมระหว่างลุคมั่นใจกับลุคหวานเข้าไว้ด้วยกันเลยค่ะ
ทรงวีเชฟปลายมนเหมาะกับใครบ้าง?
เทคนิคเลือกทรงคางยังไงให้เข้ากับรูปหน้า?
อยากเสริมคางให้ดูละมุน ต้องเริ่มจากรู้จักรูปหน้าของตัวเองก่อนเลยค่ะ เพราะทรงคางที่เข้ากัน จะช่วยบาลานซ์ใบหน้าให้ดูสวยขึ้น มาดูเทคนิคเลือกทรงคางให้ปังกันเลยค่าาา
เริ่มจากดูปัญหาโครงสร้างหน้าของตัวเองก่อน
ก่อนจะเลือกทรงคาง ลองสังเกตตัวเองก่อนว่าตอนนี้เรามีปัญหาอะไร เช่น คางถอย, คางสั้น, คางตัด หรือหน้ากว้างจากกรามและแก้ม การเข้าใจปัญหาของตัวเอง จะช่วยให้เลือกทรงคางได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้นค่ะ
เช็กก่อนว่าเรามีรูปหน้าแบบไหน
ก่อนจะเลือกทรงคาง สิ่งที่ควรรู้เลยคือ เรามีรูปหน้าแบบไหน เพราะโครงหน้าแต่ละแบบจะเหมาะกับทรงคางที่ต่างกันค่ะ เช่น…
ดูภาพรวมของใบหน้า
ไม่ใช่แค่ดูเฉพาะช่วงคางอย่างเดียว แต่ควรพิจารณาทั้งสัดส่วนของหน้าผาก, จมูก, กราม และแนวกรอบหน้าด้วยนะคะ เช่น ถ้าจมูกโด่ง คางควรมีความยาวพอดี ไม่แหลมหรือพุ่งเกินไป เพื่อไม่ให้ใบหน้าดูแข็งหรือแหลมทั้งหน้า การบาลานซ์ทุกจุดบนใบหน้าให้ลงตัว จะทำให้ผลลัพธ์ดูกลมกลืนแบบธรรมชาติค่ะ
ปรึกษาคุณหมอเฉพาะทางก่อนตัดสินใจ
ถึงจะมีทรงคางในใจไว้แล้ว แต่ก่อนตัดสินใจทำ อย่าลืมปรึกษาคุณหมอเฉพาะทางก่อนเสมอนะคะ เพราะหมอจะช่วยดูให้ว่าโครงหน้าจริงของเรานั้นเหมาะกับทรงไหน คุณหมอจะวิเคราะห์ทุกอย่างให้ละเอียด ไม่ว่าจะเป็นสัดส่วนของใบหน้า, ความยาวและความลึกของคาง, ความเชื่อมโยงกับจมูก และความสมดุลโดยรวม เพื่อออกแบบทรงคางที่ดูพอดีและเป็นธรรมชาติเข้ากับเราจริง ๆ ค่ะ
ทรงคางยอดนิยม ที่คนเลือกเสริมมากที่สุด!?
พูดถึงการเสริมคาง หลายคนมักมีคำถามว่า ทรงไหนฮิตสุด? คำตอบต้องยกให้… ทรงวีเชฟปลายมนเลยค่ะ เพราะเป็นทรงที่บาลานซ์ได้ดีสุด ๆ ระหว่างความเรียวกับความละมุน ไม่แหลมและไม่กลมจนดูป้านเกินไป เหมาะกับคนไทยแทบทุกโครงหน้า ไม่ว่าจะเป็นคนหน้ากลม หน้ารูปไข่ หรือแม้แต่คนที่มีกรามเล็กน้อย ทรงนี้ก็เอาอยู่!
ทำไมทรงนี้ถึงฮิต?
สรุป
เสริมคางมีกี่ทรง? หลัก ๆ มี 4 ทรงยอดนิยม ได้แก่ ทรงป้าน, ทรงวีเชฟปลายมน, ทรงยาวเรียว และทรงวีเชฟปลายแหลม ซึ่งแต่ละทรงจะเหมาะกับรูปหน้าและลุคที่ต่างกัน เช่น คนหน้ากลม จะเหมาะกับคางที่เรียวยาว, คนหน้าเหลี่ยมควรเลือกคางปลายมนหรือป้านเพื่อเบรกความแข็ง หรือใครอยากได้ลุคเฉียบคม ทรงวีเชฟแหลมก็ตอบโจทย์มากค่ะ ที่ ยองโด คลินิก เราจะวิเคราะห์โครงหน้าก่อนเสมอ เพื่อออกแบบทรงคางที่สวยพอดีและเป็นธรรมชาติเข้ากับใบหน้าจริง ๆ ใครสนใจสามารถนัดคิวปรึกษาคุณหมอฟรีได้เลยวันนี้!